วันที่ 1 ก.พ.66 พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ประสานงานมายังสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อหาทางออกแก้ไขปัญหาให้กับผู้ที่ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล
จากแพลตฟอร์มกองสลากพลัส ถึงแนวทางการขึ้นเงินรางวัล ในเบื้องต้น สำนักงานสามารถโอนเงินรางวัลให้กับผู้ซื้อสลากกับกองสลากพลัสได้
แต่ ดีเอสไอ จะต้องเตรียมเอกสารหลักฐานให้สำนักงานสลาก ส่วนจะล่าช้าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกองสลากพลัส จะส่งหลักฐานให้ดีเอสไอได้รวดเร็วด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ ดีเอสไอจะต้องเตรียมเอกสารให้สำนักงานสลาก ประกอบด้วย 1.สลากถูกรางวัลฉบับจริง 2.สำเนาบัตรประชาชนผู้ถูกรางวัล
พร้อมเซ็นรับรองเอกสาร 3.บัญชีเงินฝาก ที่ระบุชื่อตรงกับบัตรประชาชน และ 4.หลักฐานการซื้อสลากของผู้ซื้อ ที่บันทึกไว้ในระบบของกองสลากพลัส
หากดีเอสไอส่งมอบหลักฐานครับถ้วน สำนักงานก็จะโอนเงินรางวัลได้โดยเร็วที่สุด และต้องเป็นการขึ้นเงินรางวัลเฉพาะรางวัลที่ 2-รางวัลที่ 5 เท่านั้น
ส่วนรางวัลที่ 1 ผู้ถูกรางวัลจะต้องมาขึ้นเงินรางวัลด้วยตัวเองที่สำนักงาน
“สำนักงานสลากพร้อมช่วยเหลือผู้ถูกรางวัลที่ซื้อสลากจากกองสลากพลัส หากดีเอสไอส่งหลักฐานได้เร็วก็สามารถโอนได้เร็ว
แต่ทั้งหมดต้องอยู่ในขั้นตอน และการจ่ายเงินรางวัลของสำนักงาน สามารถจ่ายได้สูงสุดไม่เกิน 60,000 ใบต่อวัน
จากผู้ซื้อทั้งประเทศ ซึ่งก็จะทยอยจ่ายเงินรางวัล แต่ยืนยันว่าถ้าถูกรางวัล มีหลักฐานถูกต้อง ได้เงินครบทุกคนแน่นอน”
พ.ท.หนุน กล่าวว่า สำหรับสลากที่มาขึ้นเงินรางวัล ที่เป็นสลากจากกองสลากพลัส สำนักงานก็จะตรวจสอบทันทีว่าสลากใบนั้นเป็นของผู้ค้ารายใด
ก็จะตัดสิทธิในการรับสลากไปขายทันที นอกจากนี้ จากการตรวจสอบตั้งแต่งวดวันที่ 16 ต.ค.2565-30 ธ.ค.2565 รวมจำนวน 6 งวด
พบว่ามีผู้มีสิทธิซื้อ-จอง และ ผู้ค้าในระบบโควตา นำสลากไปขายต่อให้แพลตฟอร์มเอกชน เกิน 3 เล่ม และเกิน 3 งวด กว่า 5,000 คน
ซึ่งสำนักงานจะดำเนินการตัดสิทธิ์ทันทีตั้งแต่งวดวันที่ 1 มี.ค.2566 เป็นต้นไป โดยที่ผ่านมาได้ทำจดหมายแจ้งไปยังผู้ขายที่ทำผิดสัญญาแล้ว
พ.ท.หนุน กล่าวว่า สลากดิจิทัล ในงวดวันที่ 1 ก.พ.2566 โดยสลากรางวัลที่ 1 หมายเลข 297411 มีจำนวนใบที่ถูกทั้งหมด 17 ใบ รวมเป็นเงินรางวัล 102 ล้านบาท
แบ่งเป็น ถูก 1 ใบ จำนวน 4 คน , ถูก 2 ใบ จำนวน 2 คน , ถูก 4 ใบ จำนวน 1 คน , และถูก 5 ใบ จำนวน 1 คน
ส่วนสลากดิจิทัลในงวดวันที่ 16 ก.พ. ที่จะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.2566 ยังคงจำนวนการขายไว้ที่ 17 ล้านใบ
ซึ่งจะประเมินอีกครั้งว่าจะมีการเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ เพื่อให้พอเพียงกับผู้ซื้อ