จากกรณีดราม่าดีเจภูมิ ภูมิใจ โพสต์เปรียบเทียบส้มตำที่ขายในประเทออสเตรเลีย
ราคา 600 บาท บอก โชคดีที่เกิดมาเป็นคนไทย ซึ่งทำให้เจอทัวร์ลงสนั่น และหลังจากนั้น
ทางดีเจภูมิได้มีการออกมาโพสต์อธิบายถึงสิ่งที่ต้องการจะสื่อสารไปแล้ว
หลังจากนั้นได้มีการโพสต์ภาพคู่กับทนายความว่าจะมีการดำเนินคดี และหนึ่งในคนที่ออกมาพูด
ถึงประเด็นดังกล่าวคือ “แพรี่ไพรวัลย์” โดยคำที่แพรี่ได้พูดถึงดีเจภูมิผ่านการไลฟ์สด
มีทั้งคำพูดที่ว่ามันดูเฟค มันดูปลอม ปลอมก็คือปลอม
ล่าสุด วันที่ 17 ธันวาคม 2565 ทางดีเจภูมิได้มีการปล่อยคลิปผ่านช่องยูทูบของตนเอง
ใช้แคปชั่นว่าขึ้นศาล ฟ้องคุณ “แพรรี่ ไพรวัลย์” และเปิดใจว่าเราชื่นชมคุณแพรี่นะ
และรู้สึกเสียใจที่เขามาต่อว่าเราขนาดนี้ และทางดีเจภูมิได้เดินทางไปที่ศาลอาญาเพื่อไปพบกับทนายความ
โดยทางดีเจภูมิได้ถามทางนายว่า มีคำไหนบ้างที่สามารถดำเนินคดีได้ ทางด้านทนายเผยว่าถ้อยคำที่แพรรี่หมิ่นประมาทดีเจภูมิ
ก็จะมีคำว่า เฟค คำว่าปลอม คำว่าสร้างภาพ ทำให้คนอื่นมองภาพลักษณ์ดีเจภูมิในทางที่แย่
แบบนี้เข้าข่ายผิดกฏหมายฐานหมิ่นประมาท
หลังจากขึ้นศาลเสร็จดีเจภูมิได้เปิดใจเป็นการขึ้นศาลครั้งแรกในฐานะโจทย์ ทางฝ่ายแพรี่ยอมขอโทษ
และจะทำคลิปขอโทษกันในวันที่ 10 ธันวาคม 2565 ด้านดีเจภูมิเผยก็ดีใจที่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้
คนอื่นเราไม่ได้ไกล่เกลี่ย และมีการวีดีโอคอลคุยกับทางแพรี่แล้ว เขาก็ดูสุภาพน่ารักและยิ้มแย้ม
และเมื่อในวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมาก็ได้มีการนัดเจรจา ทางแพรรี่จะเดินทางเพื่อมาหาดีเจภูมิ
ซึ่งดีเจภูมิก็ได้พูดความในใจว่าจริงๆ ให้อภัยเขาแล้วตั้งแต่วันที่ได้มีการวีดีโอคอลคุยกัน คือ ณ วันนี้ศาลมีคำสั่งชัดเจน
ว่าเขาต้องขอโทษทางดีเจภูมิ เพราะว่ายังไม่มีการถอนฟ้อง
เมื่อทางด้านแพรรี่มาถึงดีเจภูมิก็ได้เปิดคลิปที่ทางแพรี่วิจารณ์ดีเจภูมิจนนำมาสู่การฟ้อง ในวันนี้
และได้อธิบายเจตนาจริงๆ ของวันนั้นที่ได้โพสต์ออกไปเรื่องดราม่าส้มตำ ว่าความจริงเป็นอย่างไร
และได้เผยว่าสำหรับดราม่านี้ก็ส่งผลกระทบต่อตัวเอง โดนแคลเซิลงานไปสองงาน มีมูลค่าเกือบ หนึ่งล้านบาท
เงินมันยังไม่เท่ากับภาพลักษณ์ที่เราอยากจะสร้าง โดยที่ผ่านมาเจอดราม่ามาตลอดไม่ได้คิดที่จะฟ้อง
แต่ครั้งนี้อยากให้เห็นถึงเรื่อง freedom of speach
ทางด้านแพรรี่เปิดใจ ในมุมของแพรรี่พอได้ฟังที่ดีเจภูมิพูดทั้งหมดแอบรู้สึกเสียใจ ที่มีถ้อยคำบางถ้อยคำ
ต่อให้จะเป็นฟีลลิ่งของหนู แต่มันทำให้ไปกระทบต่อความรู้สึกดีเจภูมิและมันไม่แฟร์ โดยในวันนั้นที่ไลฟ์ก็พูดโดยหลายๆประเด็น
และมีลูกเพจถามว่า มีความคิดเห็นอย่างไร กับดีเจท่านหนึ่ง…
หลังจากนั้นแพรี่ก็ได้พูดในมุมมองของแพรรี่ แต่กล้ายืนยันจากใจไม่มีเจตนาที่จะคิดลบหรือดิสเครดิต
ทางด้านดีเจถูมิเผยว่ามีการฟ้องไปมากกว่าหนึ่งท่านและศาลประทับฟ้องทุกเคส และชนะหมด
ด้านดีเจภูมิเผยในด้านของจิตใจ รู้ว่าทางด้านแพรรี่ไม่ได้โกรธเกลียด แต่ในสิ่งที่แพรรี่พูด
มีคนไปมีคนเอาไปตัดลง tiktok สิ่งที่แพรรี่พูดออกไปสิ่งที่ตามมาคือคอมเมนต์ที่ด้อยค่าตัวดีเจภูมิ
และบอกเลยว่าทางด้านแพรรี่เป็นคนเดียวที่ยอมไกล่เกลี่ยด้วยคนอื่นเราไมได้ยอม
ทางด้านดีเจภูมิเผยในกรณีของแพรรี่ไม่ต้องไปสู้อะไรกันแล้ว
ทางด้านแพรรี่ก็ได้มีการขอโทษดีเจภูมิ เรียกได้ว่าทุกอย่างจบลงด้วยดี สำหรับเคสนี้
